สรุปหนังสือ เศรษฐีหุ้น คุณก็เป็นได้

สรุปหนังสือ เศรษฐีหุ้น คุณก็เป็นได้
สรุปหนังสือ เศรษฐีหุ้น คุณก็เป็นได้

สารบัญ : สรุปหนังสือ เศรษฐีหุ้น คุณก็เป็นได้

บทนำ

บทที่ 1 เริ่มจากศูนย์

  • ทำไมต้องลงทุน
  • ทำไมต้องเป็นหุ้น
  • หุ้นคืออะไร
  • ผลตอบแทน
  • ความเสี่ยง
  • นักลงทุน 3 ประเภท

บทที่ 2 ถึงเวลาเริ่มลงทุน

  • วิธีลงทุนในหุ้นมีกี่แบบ
  • เปิดพอร์ตหุ้นออนไลน์กันเถอะ
  • เปิดพอร์ตกองทุนออนไลน์กันเถอะ

บทที่ 3 How to ซื้อขายหุ้นออนไลน์

  • เวลาทำการตลาดหุ้น
  • กลไกจับคู่คำสั่งซื้อขาย (Bid – Offer)
  • วิธีกดซื้อขายหุ้นด้วยแอป Streaming (ขั้น Basic)
  • วิธีกดซื้อขายหุ้นด้วยแอป Streaming (ขั้น Advance)
  • ช่วงถาม – ตอบ

บทที่ 4 ความจริงเรื่องหุ้นที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้

  • 90 เปอร์เซ็นต์ของคนส่วนใหญ่แพ้ตลาด
  • ตลาดหุ้นมีประสิทธิภาพ (Stock Exchange Is Efficient)
  • การจับจังหวะตลาด

บทที่ 5 เทคนิคที่ไม่มีวันแพ้ด้วยการออมหุ้น (สำหรับพอร์ต Passive)

  • เกาะติดค่าเฉลี่ยตลาด
  • หลักการออมหุ้น (Passive Investing)
  • เครื่องมือการออมหุ้นสำหรับมือใหม่
  • ขั้นตอนการออมหุ้นแบบ Passive
  • เช็กลิสต์สำหรับการเลือกซื้อ Index Fund (และกองทุนรวมอื่น ๆ)

บทที่ 6 ราคาหุ้น vs มูลค่าแท้จริง

  • ราคาหุ้นมาจากไหน
  • หุ้นแพง – หุ้นถูก ดูยังไง

บทที่ 7 เทคนิคลงทุนให้ชนะตลาดของนักลงทุนในตำนาน (สำหรับพอร์ต Active)

  • “ซื้อหุ้นดี” (Buy a Wonderful Company)
  • “ในราคาที่เหมาะสม” (At a Fair Price)
  • มาคัดหุ้น VI กันเถอะ
  • การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) เพื่อหาหุ้นดี
  • การประเมินมูลค่าหุ้น (Valuation) เพื่อหาหุ้นราคาถูก
  • เทคนิคการเข้าซื้อ
  • ขายเมื่อไหร่ดี

สรุปข้อคิดจากหนังสือเศรษฐีหุ้น คุณก็เป็นได้

“เศรษฐีหุ้น คุณก็เป็นได้” หนังสือที่จะพาคุณไขความลับสู่การลงทุนหุ้นอย่างชาญฉลาด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการเรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริง ผ่านเทคนิคการลงทุนสไตล์ Passive และ Active อย่างเข้าใจง่าย พร้อมแนวคิดการสร้างความมั่งคั่งด้วยการลงทุนอย่างมีสติและยั่งยืนจากผู้เชี่ยวชาญที่คุณไม่ควรพลาด!

1.การลงทุนในหุ้นเป็นหนึ่งในวิธีสร้างความมั่งคั่งที่ง่ายที่สุด

ทว่าหลายคนกลับมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว ท้าทาย หรือเสี่ยงเกินไป แต่ความจริงแล้ว การลงทุนในหุ้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่มีความรู้ ความเข้าใจ ไตร่ตรองอย่างรอบคอบ และมีวินัยในการลงทุน ทุกคนก็สามารถเป็นเศรษฐีหุ้นได้

2. คำว่า “พนัน” กับ “ลงทุน” ดูเหมือนใกล้เคียงกัน แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่ทำให้ต่างกันคือ “ความรู้”

เพราะความรู้จะช่วยคุณบริหารความเสี่ยง คัดเลือกหุ้นดี และตัดสินใจได้อย่างมีเหตุมีผล แนะนำให้ลงทุนในความรู้ควบคู่กับลงทุนในหุ้นเสมอ นี่คือความลับข้อแรกสู่ความสำเร็จ

3. สำหรับคนวัยเริ่มทำงาน อายุราว 20 ต้น ๆ ถือเป็น “โอกาสทอง”

ที่จะเริ่มต้นลงทุนสำหรับอนาคต ยิ่งเริ่มต้นเร็ว เงินลงทุนก็จะมีระยะเวลายาวนานในการงอกเงยและสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้น ต่างจากการเริ่มลงทุนเมื่ออายุมากแล้ว จึงควรใช้ประโยชน์จากพลังวัยหนุ่มสาวให้คุ้มค่า ด้วยการเริ่มลงทุนเสียแต่วันนี้

4. การออมเงินอย่างเดียวโดยไม่นำมาลงทุนต่อ เท่ากับปล่อยโอกาสทองให้หลุดลอยไป

เงินออมที่ได้อาจดูเหมือนมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป อำนาจการซื้อของเงินจะลดลงตามอัตราเงินเฟ้อ การนำเงินออมไปลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดีจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า เพื่ออนาคตที่มั่นคงกว่า

5. เงินไม่ใช่เป้าหมายของชีวิต

แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะพาคุณไปสู่เป้าหมายและความฝันต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ยิ่งมีเงินมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีอิสระและโอกาสมากขึ้นเท่านั้น การมีอิสรภาพทางการเงินจะทำให้คุณใช้เวลาอันมีค่าไปกับสิ่งที่รัก ไม่ต้องเสียเวลากับงานที่ไม่ชอบเพียงเพื่อเงินอีกต่อไป

6. เมื่อซื้อหุ้นของบริษัทใดในตลาดหุ้น คุณจะกลายเป็นเจ้าของบริษัทนั้นโดยอัตโนมัติ

แม้จะเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยก็ตาม คุณจะมีสิทธิในผลกำไรที่บริษัททำได้ในอนาคต รวมถึงสิทธิในการออกเสียงต่าง ๆ ด้วย นั่นหมายความว่า คุณไม่ได้แค่ถือครองหุ้น แต่คุณคือเจ้าของกิจการอย่างแท้จริง

7. ก่อนตัดสินใจลงทุนในหุ้นตัวใด จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาทำความเข้าใจถึงธรรมชาติของตลาดหุ้นและลักษณะเฉพาะของหุ้นนั้น ๆ

ไม่เช่นนั้น คุณอาจต้องเจ็บตัวและเสียเงินไปโดยใช่เหตุ “รู้ก่อนลง (ทุน) พร้อมก่อนเจ็บ” จึงเป็นคำคมที่นักลงทุนมือใหม่ควรจดจำเอาไว้เสมอ

8. เมื่อมีคนขายหุ้นออกไป ย่อมมีคนอีกคนที่เข้ามาซื้อหุ้นนั้นแทน

และในทุก ๆ รอบของการซื้อขาย จะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำกำไร ขณะที่อีกฝ่ายจะขาดทุนเสมอ นี่คือสัจธรรมของตลาดหุ้นที่เราต้องยอมรับ เราจึงต้องพัฒนาความรู้และทักษะการลงทุนของตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น

9. หลายคนมักบอกว่าตัวเองไม่มีเงินเก็บ เพราะมีรายจ่ายที่สูงเกินไป จนไม่เหลือเงินมาลงทุน

ความจริงคือ ไม่ว่ารายได้ของคุณจะสูงแค่ไหน หากไม่สามารถบริหารการเงินได้ ก็ยากที่จะรวยได้ เคล็ดลับคือ ให้คิดสูตรการออมแบบใหม่ จาก “รายรับ – ค่าใช้จ่าย = เงินออม” เป็น “รายรับ – เงินออม = ค่าใช้จ่าย” หมายความว่าให้หักเงินเก็บก่อนเสมอ ที่เหลือค่อยใช้จ่าย

10. การลงทุนในความรู้คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด

โดยเฉพาะความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นและการเงินส่วนบุคคล ยิ่งคุณเก่งและเชี่ยวชาญมากเท่าไหร่ โอกาสในการทำกำไรก็จะยิ่งมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ที่สำคัญคือความรู้นี้จะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต ไม่มีใครแย่งชิงไปได้ จึงนับเป็นการลงทุนที่ใช้เงินน้อยแต่ได้ผลตอบแทนมหาศาล

11. การลงทุนหุ้นสไตล์ Passive หรือการลงทุนแบบไม่ต้องใช้ความรู้มากนัก

เป็นการกระจายลงทุนในหุ้นหลายตัวผ่านกองทุนรวมหรือกองทุนอีทีเอฟ แล้วถือยาวไปเรื่อย ๆ โดยไม่สนใจความผันผวนระยะสั้น เน้นปล่อยให้เงินลงทุนงอกเงยไปตามผลการดำเนินงานของกลุ่มหุ้นนั้น ๆ วิธีนี้เหมาะกับมือใหม่ที่ยังมีความรู้ไม่มาก ไม่มีเวลาศึกษาหรือติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด

12. ปัจจุบันการเปิดพอร์ตหุ้นหรือกองทุนทำได้ง่ายเพียงไม่กี่คลิกผ่านช่องทางออนไลน์

โดยไม่ต้องเดินทางไปที่บริษัทหลักทรัพย์ให้เสียเวลา เพียงเตรียมเอกสารส่วนตัวให้พร้อม กรอกแบบฟอร์มในเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของบริษัทนายหน้าที่คุณเลือก ก็สามารถซื้อขายหุ้นอย่างอิสระได้ทันที หากไม่แน่ใจตรงไหนสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ได้เสมอ

13. เมื่อเปิดบัญชีซื้อขายแล้ว แน่นอนว่าต้องรู้จักวิธีส่งคำสั่งซื้อ-ขายให้ถูกต้องผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วย

ต้องเข้าใจความหมายของคำศัพท์ต่าง ๆ เช่น bid, offer, สถานะ Q, H เป็นต้น และที่สำคัญคือต้องรู้วิธีคำนวณค่านายหน้าซื้อขายและภาษีที่เกี่ยวข้อง หากคุณยังไม่เข้าใจการซื้อ-ขายดีพอ อย่าลังเลที่จะศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมหรือสอบถามผู้รู้ก่อนลงมือจริง

14. มีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นที่หลายคนยังไม่รู้

เช่น การเทรดหุ้นรายวันทำกำไรได้ดีที่สุด, หุ้นราคาถูกย่อมดีกว่าหุ้นราคาแพง, ต้องเลือกจังหวะเข้าซื้อและขายหุ้นให้ได้กำไรสูงสุด เป็นต้น ซึ่งความเชื่อเหล่านี้อาจทำให้คุณตัดสินใจผิดพลาดและสูญเงินโดยใช่เหตุ จึงจำเป็นต้องแยกแยะให้ดีระหว่างข้อเท็จจริงกับความเชื่อที่ผิด ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ

15. ส่วนใครที่ต้องการเรียนรู้การลงทุนในหุ้นเชิงลึกเพื่อเอาชนะตลาด ต้องหันมาศึกษาการลงทุนสไตล์ Active

ที่เน้นคัดเลือกหุ้นรายตัวจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และประเมินมูลค่าที่แท้จริงของธุรกิจด้วยหลักการวิเคราะห์ทางการเงิน ผู้ลงทุนแบบ Active จำเป็นต้องติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของบริษัทอย่างใกล้ชิด รวมถึงอาศัยความรู้ความสามารถในการคำนวณ วิเคราะห์ และประเมินมูลค่าหุ้นอย่างละเอียด เพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดในระยะยาว แม้อาจต้องใช้เวลาและความพยายามมากกว่า แต่หากทำได้สำเร็จ บอกได้เลยว่ารางวัลที่ได้รับจะคุ้มค่ากับความเหนื่อยยากแน่นอน

สรุป

หนังสือ “เศรษฐีหุ้น คุณก็เป็นได้” เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเริ่มต้นเส้นทางสู่ความมั่งคั่งด้วยการลงทุนในหุ้น โดยรวบรวมองค์ความรู้ที่จำเป็นทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ตั้งแต่ความรู้พื้นฐานไปจนถึงกลยุทธ์การลงทุนขั้นสูง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงกับทุกระดับความสามารถและทุกสภาวะตลาด

หากคุณปรารถนาเส้นทางลัดสู่อิสรภาพทางการเงิน การลงทุนในหุ้นเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะพาคุณไปถึงจุดหมายนั้นได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง เพียงแค่คุณมุ่งมั่นศึกษาหาความรู้ ลงมือปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ก้าวข้ามความกลัว และพร้อมที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาด เชื่อได้เลยว่าสักวันหนึ่งคุณจะประสบความสำเร็จในการลงทุนและมีอิสระในการใช้ชีวิตในแบบที่คุณต้องการอย่างแน่นอน แล้วคุณจะได้เป็นเศรษฐีหุ้นคนต่อไป