การตัดสินใจ Take Profit

การตั้ง Take Profit เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการเทรดมากที่สุด ว่ากันว่า จุดเข้าไม่ยากเท่าจุดออก สำหรับคนที่ติดตามบทความก่อนหน้าเรื่องการเทรดแบบ Global Macro ผมติด Position Long GBPJPY ไว้ 6 ไม้ ถึงตอนนี้ชนแนวต้าน Time Frame Weekly ไว้ครับ คือ ผมกะไว้ว่าถ้าชนแนวต้านไว้จะทำกำไร

จริง ๆ แล้วหลักการทำออกหรือการ Take Profit ของผมไม่ค่อยชัดเจน เพราะว่า ผมจะรอกราฟให้มันเคลื่อนไหวหยุดจนหมดก่อนถึงจะออก ผมจะไม่ตั้ง Take Profit ไว้แน่นอนครับ สิ่งที่ผมใช้คือ การสังเกตุพฤติกรรม Bollinger Band เป็นส่วนใหญ่ ผมจึงจะได้การเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่มีข้อจำกัดคือ

ได้กำไรเต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่า

ผมตั้งใจว่าจะเผยแพร่วิธีการใช้งาน Bollinger Band ในหนังสือ การใช้ Bollinger Band ปีหน้า ซึ่งมันรวมถึงเทคนิคต่าง ๆ และอะไรที่ทำให้ Bollinger Band มันพิเศษกว่าเครื่องมือชนิดอื่น แต่ก็ว่ากันปีหน้าครับ มาว่ากันที่บทความนี้ต่อ

Take Profit
การตั้ง Take Profit

ถึงตรงนี้ ผมเอาอะไรมาวัด จริง ๆ แล้วผมก็มองหลาย ๆ อย่างรอบด้านครับ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และการเงิน ภาวะเศรษฐกิจโลกของฝั่งเงินปอนด์ ผมคิดว่าไปได้ไกลกว่านี้ และเราก็มีกำไร ผมก็เลยคิดว่า อยากจะทำการ Take Profit ไปก่อน โดยหลักง่าย ๆ ก็คือ การไปดูค่าเงิน GBPUSD ก็ได้ครับว่า ชนเพดานเบื้องต้นหรือยัง

จะเห็นว่า GBPUSD มันชนเพดานเบื้องต้นแล้ว เฉพาะนั้นไม่ว่ามันจะไปต่อ หรือว่าหยุดแค่นี้จะมีการพักฐานในค่าเงิน GBP เกิดขึ้นได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ GBPJPY ก็อาจจะมีความน่าจะเป็นในการพักฐาน

สำหรับผู้อ่านที่ซื้อหนังสือเล่มที่ 2 ของผมเรื่อง “หลักการเก็งกำไรตลาด Forex” สิ่งหนึ่งที่ผมพูดเสมอ คือ “คุณต้องจัดการดวงตัวเองให้เป็นคนดวงดีอยู่เสมอ!!”

ถ้าสังเกตุภาพที่ 1 จะเห็นว่าผมทำ Take Profit ไปแล้วครับ นั่นคือ 3 Position กำไร 1000 ปอนด์ เดือนที่แล้วผมตอดไปเรื่อย ๆเล่นสั้น ๆ กำไร 700 ปอนด์ รวม 2 เดือนผมมีกำไรราว ๆ 1700 ปอนด์ บัญชีนี้ผมทำการย้ายมาเล่นค่าเงิน Base Currency เป็น GBP เพราะว่า เราจะอาศัยการอ่อนค่าของ GBP เพื่อทำกำไรอีกต่อหนึ่ง ถ้าหาก GBP แข็งค่า ตอนฝากเข้าผมฝากเข้าที่ 1 ปอนด์ 37 บาท ตอนนี้ถ้าถอนออกผมจะถอนได้ ปอนด์ละ 40 กว่าบาทเลย จะเห็นว่ามันกำไร 2 ต่อ เพราะถ้าผมมี 10,000 ปอนด์ผมจะได้ บวกมาอีก 30,000 บาทเลย ก็ได้มาปอนด์ละ 3 บาทครับ ฉะนั้น อย่าทำให้ตัวเองดวงไม่ดี!!

สาเหตุที่ 2 ที่ผมเลือกทำกำไร เดิมทีผมมีเงินในบัญชีอยู่ 10,000 USD ครับ ซึ่ง 10,000 USD นี่มันเท่ากับ 7,700 ปอนด์โดยประมาณครับ ผมตั้งเป้าระยะสั้นไว้ว่า “ภายใน 2 ปีนี้ผมจะต้องทำให้ถึง 10,000 ปอนด์” จะเห็นว่าผมตั้งเป้าไว้แค่ 14 % ต่อปี หรือ 28 % ต่อ 2 ปี นั่นก็คือ เอา 2300/7700 ครับ ก็เป็นไปตามที่ผมเขียนไว้ใน “หลักการลงทุน Forex นั่นแหละ”

ถ้าผู้อ่านตามหนังสือของผม ผมตั้งเป้าน้อยมาก ผมอยากจะทำกำไรให้ได้ 14 % เมื่อผมทำได้แล้วผมก็พอครับ คือได้มา 10,000 ปอนด์แล้วก็พอแต่!!!!

อย่าลืม!! ถ้ามันไปต่อ ผมยังเหลือ Position อีก 2 Position นะครับ

ถึงตรงนี้ขอขยายคำว่า ดวงดีอีกนิด จะเห็นว่า ตรงนี้ผมทำตัวเองให้ดวงดีด้วยการสร้าง Scenario ในการเทรดขึ้นมา 2 แบบ คือ ก็ถ้ามันขึ้นต่อ ผมก็มี 2 Position รออยู่ คือ เรายังทำกำไรเพิ่มเติมจากเป้าหมายของปีนี้ได้

ขณะที่ถ้าหากมันพักฐานและลงมาเป็นไปดังที่เราคาด ออเดอร์ 2 ออเดอร์แรกของเราก็อยู่ในราคาที่ต่ำมาก ต่ำเพียงพอที่มันจะไม่ขาดทุนและที่สำคัญเราก็ยังสามารถเข้าเทรดเพิ่มได้ การเข้าเทรดเพิ่มได้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ Mindset เราสามารถเข้าเทรดได้เนื่องจากเรามี position ที่เข้าเทรดไว้ดีอยู่ 2 Position ก่อนหน้าแล้ว ทำให้เราได้ราคาเฉลี่ยต่ำกว่าราคาจริง

นอกจากนี้เมื่อเราทำกำไรไปแล้ว ขนาด Lot รวมของเรามันจะน้อยลงมากทำให้เรากล้าเทรดเพราะว่า มันไม่เกิน Limit ที่จะทำให้ล้างพอร์ทนั่นเอง เป้าหมายปีนี้ 15 % ของผมก็มาถึงเร็วกว่าที่คิด และที่สำคัญก็เกินแล้วด้วยครับ ปีนี้ฟลุ๊คได้ 28 % และอาจจะได้มากกว่านั้น ถ้าหากปิดก่อน แต่ผมอยากจะรอไปให้ถึงเส้น หรือถ้าลงมาราคาเก่า ผมก็จะเล่น Swing ตรงนี้

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ที่ผมเล่นตัดสินใจ Long Bias เพราะมองภาพมหภาคของอังกฤษแล้วน่าจะเป็นไปในทิศทางขาขึ้นในอีกหลายเดือน เลยการเทรด เทรดแค่ Long Only ครับ