ความหมายของแท่ง Imbalance แท่ง Imbalance หรือแท่งความไม่สมดุล เป็นรูปแบบหนึ่งของแท่งเทียน (Candlestick Pattern) ที่สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมกันของแรงซื้อและแรงขายในช่วงเวลาหนึ่งๆ มักปรากฏขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในอุปสงค์หรืออุปทานของคู่สกุลเงิน ส่งผลให้ราคามีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและรุนแรงเป็นพิเศษ แท่ง Imbalance บ่งบอกถึงการเข้ามาแทรกแซงของผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด ซึ่งสามารถดูดซับสภาพคล่องและบิดเบือนทิศทางของราคาในระยะสั้นได้ การเกิดแท่ง Imbalance บ่อยครั้ง มักเป็นสัญญาณเตือนว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของตลาดในอนาคตอันใกล้ แท่ง Imbalance ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นักเทรดวิเคราะห์เพื่อคาดการณ์การสะสมอุปสงค์อุปทานตามแนวคิด Smart Money Concept ประเภทของแท่ง Imbalance Bullish Imbalance: เกิดขึ้นเมื่อราคาปิดสูงกว่าจุดกึ่งกลางของแท่งอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนใหญ่เป็นแท่งเทียนขนาดใหญ่ มีไส้เทียนยาวและอาจมีเงาบนสั้นๆ สะท้อนการเข้ามาของแรงซื้อที่มากกว่าแรงขายอย่างเห็นได้ชัด Bearish Imbalance: เกิดขึ้นเมื่อราคาปิดต่ำกว่าจุดกึ่งกลางของแท่งอย่างเห็นได้ชัด มักจะเป็นแท่งเทียนทิศทางลงขนาดใหญ่ ไส้เทียนยาว และอาจมีเงาล่างสั้นๆ แสดงถึงแรงขายที่เข้ามาทำกำไรและกดดันให้ราคาตกลงอย่างหนัก Neutral Imbalance: เป็นแท่งเทียนที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ แต่ราคาปิดอยู่ตรงกลางหรือใกล้เคียงจุดกึ่งกลางพอสมควร มีลักษณะคล้ายแท่งเทียน Doji ที่มีไส้เทียนสั้นมาก อาจสะท้อนถึงภาวะตลาดที่เกิดความไม่แน่นอนหรือสงครามระหว่างแรงซื้อกับแรงขายในช่วงเวลานั้น วิธีการหาแท่ง Imbalance บนกราฟ สังเกตขนาดของแท่งเทียนเทียบกับแท่งข้างเคียง หากมีขนาดใหญ่ผิดปกติ เช่น ยาวกว่าเกิน [อ่านเนื้อหา]
Category Archives: technical analysis
บทความการวิเคราะห์ทางเทคนิค
Rejection Block คืออะไร Rejection Block หรือบล็อกการปฏิเสธ เป็นรูปแบบของแท่งเทียน (Candlestick Pattern) ที่สะท้อนถึงการต่อต้านหรือการไม่ยอมรับของราคา ณ บริเวณระดับใดระดับหนึ่ง มักเกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนเข้าใกล้หรือทดสอบแนวรับ/แนวต้าน, ระดับ Fibonacci, หรือโซนสำคัญอื่นๆ แล้วเกิดการชะลอตัวหรือปฏิเสธที่จะเคลื่อนไปต่อ Rejection Block บ่งบอกถึงการเข้ามาของแรงซื้อ/แรงขายที่คอยต้านทานการเปลี่ยนแปลงราคาเอาไว้ ณ จุดนั้นๆ ซึ่งมักมาจากคำสั่งรอซื้อขายของนักลงทุนรายใหญ่ หากมีการปรากฏของ Rejection Block ซ้ำๆ บริเวณใดบริเวณหนึ่ง จุดนั้นอาจกลายเป็น Support หรือ Resistance ที่แข็งแกร่งในอนาคต Rejection Block มีความสำคัญในการช่วยยืนยันการกลับตัวของราคา และมักเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการเข้าออเดอร์ในทิศทางตรงข้ามกับแรงปฏิเสธที่เกิดขึ้น ลักษณะของ Rejection Block บนกราฟ โดยปกติ Rejection Block จะมีไส้เทียน (Candle Body) ขนาดเล็ก แต่มีเงาบน/เงาล่าง (Upper/Lower Shadow) ที่ยาวมาก ในกรณีของการปฏิเสธขาลง (Bearish Rejection) [อ่านเนื้อหา]
ความหมายของ Mitigation Block Mitigation Block คือ บล็อกการบรรเทา เป็นแนวคิดที่ใช้อธิบายปรากฏการณ์ของการเกิดแรงซื้อหรือแรงขายเข้ามาตรงข้ามกับการเคลื่อนไหวหลักของราคา มักเกิดขึ้นหลังจากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวอย่างรวดเร็วและรุนแรง เช่น หลังการเกิด Liquidity Sweep หรือ Stop Run เป็นต้น Mitigation Block ทำหน้าที่ชะลอหรือตัดแรงของเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากการเข้ามาของเม็ดเงินจากอีกฝั่งตลาดที่มองเห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลง อาจกล่าวได้ว่า Mitigation Block คือการพยายาม “ฉุดราคา” ไม่ให้ไปต่อในทิศทางที่กำลังเป็นอยู่ โดยใช้แรงซื้อหรือแรงขายเข้ามาหักล้างแรงเหวี่ยงของราคา การเกิด Mitigation Block อาจสะท้อนถึงการเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงภาวะของตลาด จากช่วง Trending สู่ช่วง Ranging หรือ Consolidation นั่นเอง ลักษณะสำคัญของ Mitigation Block มักปรากฏเป็นแท่งเทียน (Candlestick) หรือกลุ่มของแท่งเทียนที่เคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับเทรนด์หลัก ขนาดและความยาวของ Mitigation Block อาจไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ต้องชัดเจนพอที่จะเห็นเป็นการสวนกระแสหลัก ตำแหน่งที่มักพบ Mitigation Block ได้แก่ บริเวณที่ราคาเคลื่อนที่ออกห่างจากแนวรับหรือแนวต้านสำคัญไปมากๆ [อ่านเนื้อหา]
Breaker Block คืออะไร Breaker Block คือแนวคิดหนึ่งในการวิเคราะห์ทางเทคนิคของตลาด Forex ตามแนวทาง Smart Money Concept (SMC) เป็นรูปแบบของแท่งเทียน (Candlestick Pattern) ที่เกิดขึ้นเมื่อมีการเบรคผ่านระดับ Order Block สำคัญ และมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วต่อเนื่องไปในทิศทางเดียวกัน ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า Smart Money หรือกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงทิศทางของตลาดในระยะสั้นถึงระยะกลาง การเกิด Breaker Block มักจะตามมาด้วยการพักตัวของราคาเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะมีการไปต่อในทิศทางเดิม Breaker Block อาจเกิดขึ้นได้ทั้งในช่วงขาขึ้นและขาลง ขึ้นอยู่กับทิศทางของ Order Block ที่ถูกเบรคไป Breaker Block มีลักษณะอย่างไร แท่งเทียน Breaker Block จะมีขนาดใหญ่กว่าแท่งเทียนโดยรอบอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนถึงโมเมนตัมและแรงซื้อขายที่รุนแรง ไส้ของแท่งเทียน (Real Body) มีขนาดยาวเป็นพิเศษ บ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวที่มีความมุ่งมั่นสูง มีการปิดราคาที่ใกล้หรือชนกับระดับสูงสุด/ต่ำสุดของแท่งเทียน หากเป็น Bullish Breaker Block [อ่านเนื้อหา]
Order Block คืออะไร เป็นบริเวณบนกราฟที่แสดงถึงการสะสมออเดอร์ของนักลงทุนรายใหญ่ มักปรากฏเป็นแท่งเทียนขนาดใหญ่ มีไส้เทียนยาว มีลักษณะเฉพาะคือ เกิดขึ้นหลังจากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวได้ระยะหนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็พลิกกลับทิศทางอย่างรวดเร็ว Order Block ที่ราคาพุ่งขึ้น เรียกว่า Bullish Order Block ส่วน Order Block ที่ราคาร่วงลง เรียกว่า Bearish Order Block เชื่อว่าเกิดจากการกระทำของ Smart Money หรือกลุ่มนักลงทุนที่มีเงินทุนและอำนาจในการกำหนดทิศทางตลาด โดยทั่วไปราคามักจะเคลื่อนไหวในทิศทางของ Order Block ต่อไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะถึงจุดชะลอตัวหรือจุดกลับตัว Demand Zone คืออะไร เป็นระดับราคาที่นักลงทุนเชื่อว่ามีแรงซื้อเข้ามาหนุนอย่างหนาแน่น ทำให้ราคาเด้งตัวขึ้นจากแนวรับ อยู่ตรงบริเวณที่ราคาเคยลงไปทำจุดต่ำ แล้วดีดกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว บ่งบอกว่ามีแรงซื้อเข้ามาพยุงตลาด Demand Zone ที่แข็งแกร่งมักมีขนาดใหญ่ และเกิดขึ้นหลังจากราคาร่วงลงมาได้ระยะหนึ่ง เรียกว่า Deep Pullback คู่ตรงข้ามของ Demand Zone คือ Supply Zone [อ่านเนื้อหา]
Order Block คืออะไร Order Block หรือบล็อกคำสั่งซื้อขาย เป็นรูปแบบของการเคลื่อนไหวราคาที่เชื่อว่าเกิดจากการกระทำของกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ (Smart Money) ในตลาด Forex โดยจะปรากฏเป็นลักษณะของแท่งเทียน (Candlestick) กลุ่มหนึ่งที่มีการเคลื่อนไหวแตกต่างจากแท่งอื่นๆ ข้างเคียงอย่างเห็นได้ชัด โดยทั่วไป Order Block มักจะเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาเคลื่อนไหวในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างต่อเนื่องมาระยะหนึ่ง (Trend) แต่แล้วจู่ๆ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มฉับพลัน มีแท่งเทียนขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นสวนทางกับเทรนด์เดิม ก่อนที่จะตามด้วยการพักตัวหรือถอยกลับเล็กน้อย (Pullback) และเริ่มเคลื่อนไหวตามทิศทางของ Order Block ต่อไป ปรากฏการณ์นี้ถูกเรียกว่า Order Block เพราะเชื่อกันว่า ณ จุดที่ราคาพลิกทิศทางนั้น เกิดจากการที่มีคำสั่งซื้อหรือขายขนาดใหญ่เข้ามาในตลาด ซึ่งมักเป็นคำสั่งของนักลงทุนสถาบันหรือเจ้ามือตลาด (Market Maker) ที่เข้ามากำหนดทิศทางของราคาในระยะถัดไป การระบุตำแหน่งและทิศทางของ Order Block จึงเปรียบเสมือนการอ่านเจตนาของ Smart Money ว่ากำลังจะเข้าสะสมสถานะหรือระบายสถานะ และราคาน่าจะเคลื่อนไหวไปทางไหนต่อ ลักษณะของ Order Block บนกราฟ Order Block จะมีลักษณะเฉพาะที่สังเกตได้จากแท่งเทียนรายวัน [อ่านเนื้อหา]
FVG Forex คืออะไร FVG ย่อมาจาก Fair Value Gap หมายถึงช่องว่างของราคา (Price Gap) ที่เกิดขึ้นเมื่อราคาเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยข้ามระดับราคาบางช่วงไปเลย ทำให้เกิดการหายไปของราคาบางส่วน ซึ่งตลาดยังไม่ได้กำหนดมูลค่าที่แท้จริง (Fair Value) โดยทั่วไป FVG มักเกิดขึ้นเนื่องจากมีความไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทานในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น เมื่อมีข่าวสำคัญหรือเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสกุลเงิน ทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน โดยอาจมีสาเหตุจากคำสั่งซื้อขายที่วางไว้ล่วงหน้าจำนวนมาก (Pending Orders) หรือการเข้ามาของเม็ดเงินขนาดใหญ่จากนักลงทุนสถาบัน FVG เป็นปรากฏการณ์ที่พบได้บ่อยในตลาด Forex เพราะเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงและเกี่ยวข้องกับปัจจัยมหภาคระดับโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสกุลเงินต่างๆ ได้ตลอดเวลา ทำให้ราคามีโอกาสผันผวนและเกิดช่องว่างได้ง่าย ความสำคัญของ FVG ต่อการเทรด Forex การเข้าใจและวิเคราะห์ FVG มีความสำคัญต่อการเทรด Forex ในหลายแง่มุม ได้แก่: ใช้ระบุแนวโน้มและความแข็งแกร่งของตลาด: โดยทั่วไปเมื่อเกิด FVG ราคามักมีแนวโน้มที่จะย้อนกลับไปยังช่องว่างเพื่ออุดช่องว่างราคาที่หายไป (Fill the Gap) ดังนั้นทิศทางและความเร็วของการย้อนกลับ อาจบ่งบอกถึงแนวโน้มและแรงซื้อขายของตลาดในระยะสั้น ใช้หาจุดเข้าออกออเดอร์ที่น่าสนใจ: หลังจากเกิด [อ่านเนื้อหา]
ความหมายของ Buy Side และ Sell Side Liquidity Buy Side Liquidity หมายถึง โซนบนกราฟราคาที่มีคำสั่งซื้อจำนวนมากของนักเทรดรายย่อย ซึ่งมักถูกวาง ณ จุดที่คาดว่าราคาจะไม่ลงไปต่ำกว่านั้น เช่น บริเวณ Demand Zone, Support, หรือระดับ Fibonacci ที่ใช้เป็นแนวรับ ในทางกลับกัน Sell Side Liquidity ก็คือโซนที่มีคำสั่งขายสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก มักอยู่ในบริเวณ Supply Zone, Resistance, หรือระดับ Fibonacci ที่เป็นแนวต้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจุดที่นักเทรดคาดว่าราคาจะไม่ขึ้นไปสูงกว่านั้นแล้ว ตามแนวคิด Smart Money Concept นักลงทุนรายใหญ่มักใช้กลยุทธ์กวาดสภาพคล่อง (Liquidity Sweep) โดยการผลักดันราคาให้ไปถึงบริเวณที่มีออเดอร์หนาแน่น ไม่ว่าจะเป็นฝั่ง Buy Side หรือ Sell Side เพื่อ Trigger ให้ออเดอร์เหล่านั้นทำงาน ก่อนจะดึงราคากลับไปในทิศทางตรงข้ามเพื่อทำกำไร ดังนั้น [อ่านเนื้อหา]
Liquidity Zone คืออะไร Liquidity Zone หรือโซนสภาพคล่อง เป็นบริเวณบนกราฟที่มีคำสั่งซื้อขายของนักเทรดรายย่อยสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งคำสั่งรอซื้อ (Buy Limit), คำสั่งรอขาย (Sell Limit), คำสั่ง Stop Loss และ Take Profit โดยมักอยู่ตามแนวรับแนวต้าน, เส้นแนวโน้ม, ระดับ Fibonacci Retracement หรือ Order Block สำคัญต่างๆ ตามแนวคิด Smart Money Concept นั้น Liquidity Zone ถือเป็นเป้าหมายหลักของนักลงทุนรายใหญ่ (Smart Money) ที่ต้องการเข้ามากวาดสภาพคล่องในตลาด ด้วยการผลักดันราคาให้วิ่งเข้าหาบริเวณเหล่านั้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง เพื่อ Trigger ให้ออเดอร์ทั้งหมดทำงาน ก่อนจะดึงราคากลับมาในทิศทางตรงข้าม ทำกำไรจากการเทรดที่ไหลทวนกระแส เราจึงเรียกพฤติกรรมนี้ว่า “การกวาดสภาพคล่อง” (Liquidity Sweep) นั่นเอง ลักษณะของ Liquidity Zone บนกราฟ โดยทั่วไปแล้ว [อ่านเนื้อหา]
ความหมายของ Liquidity ในตลาด Forex Liquidity Forex หรือสภาพคล่องในตลาดเงินตราต่างประเทศ หมายถึงความสามารถในการซื้อขายคู่สกุลเงินได้อย่างรวดเร็ว โดยมีผลกระทบต่อราคาน้อยที่สุด ตลาด Forex ถือเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก เนื่องจากมีผู้เข้ามาซื้อขายจำนวนมากตลอด 24 ชั่วโมง ส่งผลให้สเปรดของคู่สกุลเงินส่วนใหญ่ค่อนข้างแคบ และทำการซื้อขายได้ง่าย อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องในตลาด Forex มีความผันผวนตามช่วงเวลา โดยจะมีสภาพคล่องสูงในช่วงที่ตลาดหลักๆ เช่น ลอนดอน นิวยอร์ก และโตเกียว เปิดทำการ ซึ่งเป็นช่วงที่มีปริมาณการซื้อขายเข้ามามาก ในทางกลับกัน สภาพคล่องจะลดลงในช่วงวันหยุดหรือช่วงเวลานอกเหนือจากนั้น ความสำคัญของสภาพคล่องต่อการเทรด Forex สภาพคล่องมีผลต่อการเทรด Forex อย่างมาก เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนและความเสี่ยงในการทำการซื้อขาย กล่าวคือ: คู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูง จะมีสเปรดที่แคบกว่า ซึ่งหมายถึงต้นทุนในการเทรดที่ต่ำลง การเข้าและออกออเดอร์จะทำได้อย่างรวดเร็ว โดยมีผลกระทบต่อราคาน้อย ลด Slippage และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของตลาด ในทางกลับกัน คู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องต่ำ เช่น Exotic Pairs มักมีสเปรดกว้างและความผันผวนสูง ซึ่งเพิ่มความยากและความเสี่ยงในการเทรด นอกจากนี้ สภาพคล่องยังมีความสัมพันธ์โดยตรงกับ Volatility [อ่านเนื้อหา]